โครงการดนตรีพลังบวก “เด็กภูมิดี” เป็นหนึ่งในโครงการที่ริเริ่มโดยมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมให้เด็กขาดโอกาสให้ได้รับการส่งเสริมการศึกษาด้านวิชาดนตรี เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้เด็กๆ ห่างไกลจากยาเสพติดและอบายมุขต่าง ๆ ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างภูมิปัญญาให้ท้องถิ่น โดยใช้ดนตรีเป็นสื่อเชื่อมสายใยระหว่างเด็ก โรงเรียน ครอบครัว และชุมชน

ดนตรี “สร้างภูมิคุ้มกัน” ให้เด็ก

“โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อให้เด็กและเยาวชนโรงเรียนวัดลาดทราย ประชาชนในชุมชนตำบลลำไทร และบริเวณใกล้เคียง ได้เรียนรู้สืบสานกับดนตรีพื้นบ้าน และยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก ๆ ห่างไกลจากยาเสพติด” ดร.สุกรี เจริญสุข ในฐานะประธานมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข เล่าถึงที่มาในการริเริ่มตั้งวงเด็กภูมิดี วงดนตรีไทยระดับประถม โรงเรียนวัดลาดทราย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

“แต่วงดนตรีเด็กภูมิดี จะดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืนไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นครูอาจารย์ ผู้ปกครอง คนในชุมชน การเว้นพื้นที่สีขาวให้เด็กกลุ่มนี้คือหนทางหนึ่งที่จะทำให้พวกเขาไปถึงปลายทางที่ตั้งไว้ เพราะคำว่าเด็กภูมิดีคือภูมิคุ้มกันจากปัจจัยแวดล้อมที่จะทำให้เด็กห่างไกลจากสิ่งยั่วยุ ล่อแหลม พวกเขามีกิจกรรมที่ดีแล้ว คนในชุมชนควรสนับสนุนด้วยวิธีการที่ถูกต้อง”

ภูมิดี คือ ภูมิคุ้มกันจากปัจจัยแวดล้อม

ที่จะทำให้เด็กห่างไกลจากสิ่งยั่วยุ ล่อแหลม

ดร.สุกรี เจริญสุข

ประธานมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข

สุพินดา มโนมัยพิบูลย์ ผู้จัดการมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข เล่าว่า เด็กประถมโรงเรียนวัดลาดทรายส่วนใหญ่เป็นเด็กยากจน พ่อแม่เป็นแรงงานต่างด้าว หรือแรงงานพลัดถิ่น เป็นเด็กที่อาจเรียนไม่ค่อยเก่ง สู้เด็กกรุงเทพฯ หรือเด็กในตัวเมืองไม่ได้ แต่เขามีความสามารถด้านอื่น ๆ นั่นก็คือเรื่องดนตรี และเมื่อเราส่งวิทยากรจากมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข เข้าไปช่วยฝึกสอน พวกเขาก็สามารถร่วมเล่นเป็นวงได้ สะท้อนให้เห็นว่าเด็ก ๆ กลุ่มนี้มีความสามารถ มีพรสวรรค์ หากได้รับโอกาส การฝึกฝน และการสนับสนุนที่ถูกต้อง

เพราะในเวลาต่อมา เมื่อเด็ก ๆ เล่นดนตรีได้ดีขึ้น ก็มีโอกาสได้ไปเล่นทุก ๆ วันพระที่วัดให้คนในชุมชนฟัง หลังจากนั้นคนในชุมชนก็ว่าจ้างให้ไปเล่นตามงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง งานบวช งานศพ เกิดเป็นอาชีพ สร้างรายได้ตามมา แต่มากกว่านั้น เรายังได้เห็นว่าเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมโครงการหลายคนมีสมาธิดีขึ้น มีผลสอบที่ดีขึ้น นอกจากนั้นยังมีวิสัยทัศน์ มีมุมมองใหม่ๆ มีความมุมานะตั้งใจ ที่จะทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นมากกว่าเดิม

“เราเข้าไปทำโครงการตั้งแต่โรงเรียนไม่มีอะไรเลย ไปจากศูนย์จริง ๆ ไม่มีครูดนตรี ไม่มีอะไรทั้งนั้น แต่ก็ได้คุณครูในโรงเรียนที่มองเห็นความสำคัญสิ่งเหล่านี้ ที่ไม่ใช่แค่ในเรื่องวิชาการอย่างเดียว จนตอนนี้วงเด็กภูมิดีกลายเป็นวงดนตรีไทยที่มีความทันสมัย คือเด็กเล่นดนตรีมาจากใจ มีความสดใส เป็นดนตรีไทยของคนยุคใหม่ เป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียน ชุมชน และครอบครัว”

น้องเดียร์-ศิริญา บุรีนอก ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดลาดทราย อดีตสมาชิกวงเด็กภูมิดี เผยความรู้สึกไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าไม่มีดนตรีไทยชีวิตคงหันเหเข้าสู่เส้นทางสายอาชีพ และต้องเริ่มต้นทำงานเพื่อหารายได้ แต่ด้วยความสามารถทางดนตรีไทย ทำให้เธอสอบเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยนาฏศิลป์ได้

“..ตั้งแต่เล่นดนตรีไทยก็เริ่มรักและอยากมีประสบการณ์ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ อยากเรียนต่อให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในอนาคตอยากเป็นครูสอนดนตรีไทย อยากเผยแพร่ดนตรีไทยให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัส ดนตรีไทยมีเสน่ห์ในตัวเอง ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสที่ดีเหล่านี้ และขอบคุณครอบครัวให้การสนับสนุนอย่างดี”