โครงการสานฝันการศึกษาเพื่อน้อง เป็นการผสานพลังการทำงานระหว่างกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และภาคี ในการช่วยเหลือเด็กยากจนด้อยโอกาสที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทั้งปัญหาสุขภาวะ การเรียนรู้ที่หยุดชะงักจากการที่ไม่ได้ไปโรงเรียน ไปจนถึงการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กยากจนด้อยโอกาสไม่ให้หลุดออกนอกระบบ โดยเฉพาะเด็กที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจครัวเรือนจากโควิด-19 ที่ในการสนับสนุนทุนใช้ฐานข้อมูลเด็กและเยาวชนซึ่งผ่านการคัดกรองของ กสศ. จำนวนทั้งสิ้น 762 คน จากการสำรวจข้อมูล พบว่า ประมาณร้อยละ 80 ต้องการการสนับสนุนด้านค่าเทอม/เงินบำรุงการศึกษา ทั้งนี้ทาง กสศ. ได้วางระบบติดตามเพื่อป้องกันการหลุดออกนอกระบบการศึกษา ซึ่งช่วยให้เด็กด้อยโอกาสจำนวนไม่น้อยกว่า 500 คน ได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนให้พ้นจากวิกฤติทางการศึกษา มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เข้าไปสนับสนุนนักเรียนในโครงการนี้จำนวน 200 คน
เมื่อคลื่นแห่งวิกฤติโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ถาโถมเข้าสู่ประเทศไทย
นับตั้งแต่เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดเข้ามาในประเทศไทยระลอกแรก ผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง คือ เด็กและเยาวชน เห็นได้จากตัวเลขการเจ็บป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นสองเท่าภายในเดือนเดียว โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กยากจนด้อยโอกาสที่ยากต่อการเข้าถึงการรักษา หรือความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องแยกจากพ่อแม่ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 สถานการณ์ของปัญหาดังกล่าวยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลเป็นการเฉพาะ กสศ. จึงระดมเครือข่ายเร่งแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน ผลิพร ธัญญอนันต์ผล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารสาธารณะและระดมความร่วมมือ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า “เพราะรู้ดีว่าการดูแลเด็กหนึ่งคนไม่ได้มีเพียงมิติเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพกายเท่านั้น เพราะเด็กที่ได้รับผลกระทบต้องดูแลถึงสภาพทางจิตใจด้วย”
เมื่อถึงวันที่ส่งเด็กและเยาวชนกลับบ้านหลังหายจากความเจ็บป่วย ทำให้เห็นความจริงในอีกแง่หนึ่งว่า พ่อ แม่ของเด็กตกงานซึ่งส่งผลกระทบต่อการหลุดออกนอกระบบการศึกษาของบุตรหลาน ผลิพร กล่าวถึงสถานการณ์ในตอนนั้นว่า “กสศ. ไม่นิ่งนอนใจรีบประสานหน่วยงานภาครัฐเกี่ยวกับข้อมูลของผู้ป่วยเด็ก เด็กที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม อีกด้านหนึ่ง คือ เด็กกำพร้าที่เกิดจากโควิด ทำให้เกิดการบูรณาการทำงานข้ามหน่วยงานและการรายงานสถานการณ์ข้อมูลเป็นรายวัน ทำให้เห็นตัวเลขรายคน ส่งผลให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที”